บริษัท อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญและความรับผิดชอบต่อการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (ประมวลผล) ข้อมูลส่วนบุคคล โดยทางบริษัท มีนโยบายปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เพื่อเป็นการรับรองสิทธิของบุคคลที่จะต้องได้รับความคุ้มครองเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (ประมวลผล) ข้อมูลส่วนบุคคล
คำแถลงว่าด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ อธิบายถึงวิธีการเก็บหรือการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่จะมีการเก็บรวบรวม วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (ประมวลผล) หรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผู้ที่บริษัทอาจจะเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้ตลอดจนวิธีการเข้าถึง แก้ไข และวิธีการใช้สิทธิของท่านในการดำเนินการประการอื่น ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ท่านจะต้องอ่านและทำความเข้าใจคำแถลงฉบับนี้ ก่อนให้ความยินยอมแก่บริษัท ในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (ประมวลผล) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- วิธีการเก็บหรือการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
ทางบริษัท มีการรวบรวมและเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยวิธีการดังต่อไปนี้
- การใช้บริการต่าง ๆ และการสมัครงานกับทางบริษัท โดยการกรอกข้อมูลผ่านใบสมัคร เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ทางคอมพิวเตอร์ออนไลน์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือทางโทรศัพท์
- เมื่อท่านส่งเอกสารข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเข้าสู่กระบวนการสรรหาพนักงาน การจ้างพนักงานกับทางบริษัท รวมถึงการทำสัญญาใช้บริการต่าง ๆ กับบริษัท
- เมื่อท่านส่งคำร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงข้อมูลของท่าน
- เมื่อท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท เพื่อเข้าร่วมในการจับฉลาก การประกวด งานอีเว้นท์ หรือการแข่งขันต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น
- เมื่อบริษัทขอข้อมูลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการได้รับข้อมูลจากการตรวจสอบแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลส่วนตัว หรือแหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ แหล่งข้อมูลทางการแพทย์ สถานบริการสาธารณสุข โรงพยาบาล แพทย์ บุคลากรผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุข (“แหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอก”)
- นอกจากนี้ บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับท่านโดยอัตโนมัติจากการใช้งานของท่าน เช่น หมายเลขเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address)
การที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่บริษัท (ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงบุคคลที่ท่านไว้วางใจ สมาชิกในครอบครัว หรือผู้รับประโยชน์) ท่านต้องรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น รวมถึงรับรองและรับประกันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกเหล่านั้นโดยบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ และได้รับความยินยอมจากบุคคลภายนอกดังกล่าวก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนนบุคคลของบุคคลภายนอกแล้ว ยกเว้นเท่าที่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ ไม่ได้กำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมนั้น
2. วิธีการเก็บหรือการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขเป็นคราว ๆ และกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น ๆ) มีดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง วุฒิการศึกษา หมายเลขทะเบียนรถยนต์ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ และรายละเอียดข้อมูลติดต่ออื่น ๆ วันเกิด อาชีพ รูปถ่าย เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับผู้อยู่ในอุปการะของท่าน ข้อมูลทางชีวภาพ (Biometric) เช่น ข้อมูลจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลจำลองม่านตา เป็นต้น
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น รายได้ แหล่งที่มาของรายได้ ข้อมูลเกี่ยวกับภาษี เลขที่บัญชีธนาคาร รายละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร รายละเอียดเกี่ยวกับเงินกู้ ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน และรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินอื่น ๆ
- ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานและประวัติการทำงาน ประวัติการใช้บริการของท่าน
- ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและข้อมูลทางการแพทย์ของท่าน เช่น ประวัติการรักษาพยาบาล การตรวจทางการแพทย์ การสืบสวนทางการแพทย์ ประวัติการขอคำปรึกษา การสั่งจ่ายยา บันทึก การรักษา รายละเอียดทางการบริการทางการแพทย์ที่ได้รับ รายงานทางการแพทย์และรายละเอียดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์
- ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการดำเนินคดีความทางแพ่งหรืออาญาของท่าน เช่น ประวัติอาชญากรรม บันทึกเกี่ยวกับการดำเนินคดีไม่ว่าทางแพ่งหรือ การดำเนินคดีอื่น ๆ
- ข้อมูลและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่าง ๆ เช่น หมายเลขกรมธรรม์ ผู้รับประโยชน์ การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
- ข้อมูลทางเทคนิค และกิจกรรมส่วนบุคคล/ลักษณะการใช้งาน เมื่อท่านใช้เว็ปไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ชื่อเรียกตัวตนเฉพาะของท่านที่ใช้บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ที่อยู่ไอพี ประเภทและเวอร์ชั่นของบราวเซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา ประเภทของปลั๊กอินในบราวเซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม ข้อมูลผู้ใช้ (user profile) ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ (รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เลขอีมี่ (IMEI) ข้อมูลเครือข่ายไร้สายและข้อมูลเครือข่ายทั่วไป)
- ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ตามที่กฎหมายระบุให้ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บข้อมูล หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นเรื่องที่กระทำโดยสมัครใจ ท่านอาจเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัทได้ แต่การไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว อาจกระทบต่อการทำธุรกรรมของบริษัทกับท่าน หรือต่อการตอบสนองข้อร้องขอต่าง ๆ ของท่านได้
3. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ทางบริษัทจะมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกนำไปใช้ เปิดเผย หรือโอน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย รวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ ของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 พ.ร.บ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.2530 พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหา ประเมินทดสอบความสามารถในการเข้าทำงานของท่าน รวมถึงตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน และเพื่อติดต่อกับผู้สมัครงานกับบริษัท
- เพื่อการเข้าถึงและใช้สิทธิใด ๆ ตามข้อตกลงสัญญาจ้าง, สัญญาใช้บริการต่าง ๆ ที่ท่านทำกับบริษัท
- เพื่อการดำเนินการด้านการเงินและภาษีของท่าน
- เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล การรายงานหรือการประเมินผล ที่จัดทำขึ้นโดยบริษัท… หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และ การทำธุรกรรมขององค์กร
- เพื่อการติดตามพฤติกรรมของท่าน เช่น พฤติกรรมการใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ การทำวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
- เพื่อการให้ความช่วยเหลือตามวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัทโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ และการดำเนินการตามหน้าที่ในการรายงานและข้อกำหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดหรือ ตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ
- เพื่อวัตถุประสงค์ในด้านคุณภาพและการฝึกอบรมสำหรับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลภายในองค์กร
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สำรอง หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อการดำเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ข้างต้น เว้นแต่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใ ช้บังคับจะอนุญาตให้กระทำเป็นอย่างอื่น ทางบริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่าน หากประสงค์จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในคำแถลงว่าด้วยความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคำแถลงนี้
บริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบเอกสาร (Hard Copy) รวมถึงรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยบริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือนานกว่านั้น เช่นอายุความตามกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนั้น
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก
บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักหรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยทางบริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่บุคคลต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือบุคคลอื่นใดในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ ที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลให้ตามหน้าที่ทางกฎหมายและ/หรือตามหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศหรือเขตการปกครองนั้น
- บุคคลใดก็ตามที่ได้รับอนุญาตให้กระทำการในฐานะบุคลากรหรือบริษัทในเคริอ
- บุคคลใดก็ตามที่ทำสัญญาให้บริการ หรือการจัดการต่าง ๆ แก่บริษัท เช่น บริษัทประกันภัย บริษัทจัดการการลงทุน สถาบันการเงิน บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการการให้เช่ารถยนต์ บริการโทรคมนาคม บริการด้านเทคโนโลยี บริการคลาวด์ บริการในการจัดประชุมและการสัมมนา บริการจัดเก็บของ การดำเนินการเกี่ยวกับเอกสาร บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการจัดพิมพ์ บริการส่งพัสดุหรือบริการรับส่งพัสดุโดยพนักงานรับส่งพัสดุ
- ผู้ให้คำปรึกษาของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ อาทิเช่น บริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมาย ทนายความ บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ
- สมาคมหรือสมาพันธ์ในภาคธุรกิจ
- บุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ ได้
- บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
5. การโอนข้อมูลไปยังประเทศอื่น / การโอนข้อมูลข้ามประเทศ
บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ อาทิเช่น บริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ รวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด ซึ่งผู้ให้บริการรับโอนข้อมูลหรือบริการเก็บรักษาข้อมูลอยู่ต่างประเทศ เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน server/cloud ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรืออาจให้บริการนอกประเทศไทย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จะถูกโอนไปยังที่อื่น ๆ จะต้องมีระดับการคุ้มครองความถูกต้องและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระดับ
ที่ต้องเทียบได้กับระดับความคุ้มครองในประเทศหรือเขตการปกครอง หรือดินแดนที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้
6. ความปลอดภัยและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ บริษัทมีมาตรการความปลอดภัยอันเหมาะสมเพื่อใช้ในการป้องกันการเข้าถึง การประมวลผล การลบ การสูญหาย หรือการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต
ในกรณีที่พ้นระยะเวลาจัดเก็บ บริษัทจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสมเพื่อทำการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
ในกรณีที่บริษัทมีการเข้าทำสัญญากับบุคคลที่สาม บริษัทจะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความปลอดภัย
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบบุคคลและช่องทางการติดต่อ
ท่านมีสิทธิดำเนินการดังต่อไปนี้
- สิทธิเข้าถึง ขอรับสำเนาของบุคคล ขอให้โอน ขอให้เปิดเผยถึงการได้มาของข้อมูล รวมถึงว่าบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
- สิทธิขอทำการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
- สิทธิขอให้ลบ หรือทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
- สิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- สิทธิขอเพิกถอนความยินยอมของท่านหรือร้องขอให้เปลี่ยนแปลงขอบเขตความยินยอมของท่าน
- สิทธิคัดค้านการเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
- สิทธิที่จะร้องเรียนต่อบริษัท หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านเห็นว่าสิทธิใด ๆ ของท่านถูกบริษัทละเมิด
การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และในกรณีที่ท่านขอใช้สิทธิดังกล่าว อาจส่งผลให้เกิดข้อจำกัดกับบริษัทในการทำธุรกรรมหรือการให้บริการแก่ท่านได้
หากท่านมีคำถาม ข้อกังวล หรือสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือต้องการความช่วยเหลือในการจัดการทางเลือกและสิทธิของท่าน รวมถึงข้อร้องเรียนในการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อ
8. การแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทบทวนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงขั้นตอนและกระบวนการของบริษัทตามความเหมาะสม และบริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไข คำแถลงว่าด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ตามดุลยพินิจของบริษัทฝ่ายเดียว
การแก้ไขใด ๆ ให้มีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อมีการประกาศฉบับแก้ไข บริษัทจะไม่แจ้งการแก้ไขดังกล่าวให้ท่านทราบเป็นรายบุคคล โดยท่านสามารถตรวจสอบ อ่าน และทำความเข้าใจข้อมูลล่าสุด ได้ที่ www.aopograndmarina.com